การเริ่มต้นทุกธุรกิจย่อมมีความเสี่ยงทั้งสิ้น หากเราจำกัดความเสี่ยงให้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำที่สุดนั้นหมายความว่าเราลงทุนอย่างชาญฉลาดและรอบครอบ การลงทุนเปิดร้านกาแฟโดยใช้เงินลงทุน หลายแสนแต่ก็กลับยังไม่มั่นใจในผลตอบแทนที่ได้อย่างชัดเจนนั้น ถือว่าเป็นความเสี่ยง การเช่าเครื่องชงกาแฟนั้นย่อมเป็นการลดความเสี่ยงลงแถมยังได้สิทธิพิเศษจากบริษัทฯที่มอบให้กับท่านเพื่อดำเนินธุรกิจไปด้วยกัน

-     ผู้ลงทุนรายใหม่ที่มีความสนใจในการลงทุนเปิดร้านกาแฟสดแต่ไม่ต้องการให้เกิดความเสียงที่สูง
-     ผู้ลงทุนที่มีเงินลงทุนที่จำกัด หรืออาจต้องการกระจายการลงทุนไปลงทุนในส่วนอื่นๆเพิ่มเติมเช่น ไอศครีม, อาหาร, เบเกอรี่ ฯลฯ
-      บริษัท ห้าง ร้าน ที่ต้องการเช่าเครื่องชงกาแฟเพื่อเป็นสวัสดิการแก่พนักงานภายในองค์กร หรือบริการแก่ลูกค้า

- หากดูจากยอดการคั่วกาแฟตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราทราบว่ามีลูกค้าที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วจากเราเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี

ปี 2547
เราคั่วกาแฟด้วยเครื่องคั่วขนาด 20 กก.

ปี2548
เราเพิ่มเครื่องคั่วกาแฟขนาด 30 กก. อีกหนึ่งเครื่องเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่สูงมากขึ้น และใช้เครื่องบดกาแฟ นำเข้าจากเยอรมัน

ปี 2550
เราส่งออกกาแฟคั่วคุณภาพให้ ประเทศกัมพูชา และในปีเดียวกัน เราใช้เครื่องคั่วระบบใหม่ Hot Air ในขนาดเตา 120 กก.
เรามีลูกค้าเช่าเครื่องชงกาแฟมากกว่า 150 เครื่อง ในตลาด

ปี 2553
เรามีลูกค้าที่ใช้บริการเช่าเครื่องชงกาแฟอยู่ มากกว่า 250 ร้านกาแฟ ไม่รวมถึงร้านกาแฟแฟรนไชน์ในท้องตลาดที่เราได้คั่วกาแฟส่งให้  และยังรวมถึงลูกค้าที่มิได้เช่าเครื่องแต่ใช้กาแฟของทางบริษัท  ดังนั้นเราจึงมีความภูมิใจในผลิตภัณฑ์ของเรามากพอสมควรและจะคงคุณภาพที่ดีต่อๆไป

ปี 2555
เราคั่วกาแฟมากกว่า 200,000 กก. / ปี เพื่อรอบรับลูกค้าทั้งใหม่และเ่ก่า
- เพราะค่าดำเนินในการดูแลรักษาเครื่องชงกาแฟและอะไหล่ต่างที่เกิดขึ้นนั้น   เราไม่ได้คิดคำนวณกับทางลูกค้า และหากเก็บแต่ค่าเช่าอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น  อย่างไรก็ตามราคาสินค้าจัดว่าเป็นธรรมมิได้ขายเกินราคาหรือแพงกว่าที่อื่น
- การบริการจัดเป็นสิ่งสำคัญหากเราดูแลไม่ทั่วถึงอาจทำให้ลูกค้าผิดหวังได้ เครื่องชงกาแฟขนาดเล็กอาจมีปัญหาได้เสมอตราบใดที่ผู้เช่าหน้าใหม่อาจยังใช้เครื่องไม่ชำนาญ หรือเข้าใจอย่างแท้จริง

- ค่าเช่าเดือนละประมาณ 1000-2000 บาทต่อเดือน  คิดเป็น ค่าเช่าต่อวันประมาณ 35 – 80 บาทต่อวัน  ราคาขายกาแฟสดเฉลี่ยอยู่ที่ 25- 40 บาท ถือว่าการคิดค่าเช่าน้อยมาก  แถมเวลาเครื่องชงกาแฟมีปัญหาก็ไม่ต้องยกเครื่องส่งซ่อมเอง ค่าใช้จ่ายอะไหล่ก็ไม่มี ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนตัวเครื่องได้แน่นอน

อีกประการหนึ่ง เรามีนโยบายสั่งกาแฟลดค่าเช่า ได้นั้นคือหาก 1 วัน ผู้เช่าเครื่องขายกาแฟ 50-80 ถ้วยต่อวัน ก็น่าจะใช้กาแฟเฉลี่ยประมาณ 15-25 ก.ก. ต่อเดือน หากค่าเช่าเต็ม 2000 บาท ลูกค้าจะได้ลดค่าเช่า1000-1500 บาทต่อเดือน ทำให้คุณจ่ายค่าเช่าจริงแค่ 500-1000 บาทต่อเดือน  ซึ่งถือว่าถูกมากๆ

- เมื่อลูกค้าขายกาแฟดีนั้นหมายถึงผู้ดื่มกาแฟมั่นใจในรสชาดของกาแฟ  ซึ่งยอดการซื้อกาแฟที่สูงขึ้นจะเป็นตัวไปลดค่าเช่าเครื่องชงกาแฟทำให้ลูกค้าเสียค่าเช่าน้อยกว่าค่าเช่าจริงที่เกิดขึ้น  ดังนั้นลูกค้าส่วนใหญ่จึงไม่คิดซื้อเครื่องชงกาแฟเป็นของตัวเอง

- ปริมาณการขายกาแฟที่น้อยมีหลายปัจจัย สาเหตุหลักเกิดจากทำเลที่ตั้ง รวมถึงความเข้าใจในตัวธุรกิจกาแฟสดดังนั้นมีทางออกการมากมายให้เลือก ยกเลิกเช่า, หาทำเลใหม่, ศึกษาเข้าใจในธุรกิจใหม่
- มีแน่นอน  ความเป็นจริงร้านกาแฟควรจะขายได้5-10ก.ก.ต่อเดือนถือว่าขายได้น้อยมากควรเปลี่ยนทำเลได้เลย    มากกว่า 20 % ได้ใช้เครื่องชงกาแฟฟรีอยู่และอีกกว่า 50 % ได้ส่วนลดค่าเช่าอยู่
- มีน้อยมากที่ถูกหักมัดจำเป็นเหตุสุดวิสัย อันเกิดจากทำส่วนประกอบหายครับ (ไม่ได้ชำรุด) ซึ่งทำให้บริษัทฯจำเป็นต้องหักเงินมัดจำ
- เครื่องจำพวกนี้แม้มีศักยภาพสูงชงกาแฟได้อร่อยก็จริงแต่ราคาเครื่องเมื่อประเมินเป็น ค่าเช่าเครื่อง จะสูงมากกว่าวันละ 300 บาท รวมถึงการวางเงินมัดจำ กว่า 50000-100000 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่สามารถรับค่าใช้จ่ายที่สูงได้ครับ
- ความแน่นอนของเครื่องชงกาแฟอัตโนมัตินั้นมีมาก ลูกค้ากลุ่มที่ใช้เครื่องอัตโนมัติเพราะ ลูกค้าใช้เครื่องชงกาแฟต้อนรับแขกตามออฟฟิตต่างๆ, ลูกค้าที่มีลูกจ้างชงกาแฟขาย(บางร้านมี 3 คน) และกลัวว่ารสชาดที่ได้ไม่แน่นอน และลูกค้ากลุ่มสุดท้ายคือลูกค้าที่ขายสินค้าหลายชนิดไม่มีเวลาในการชงกาแฟได้เต็มที่
- เมื่อคุณขายกาแฟในราคามากกว่า 40 บาทขึ้นไปและชงขายได้มากกว่า 100 ถ้วยต่อวัน
- เมื่อคุณขายกาแฟร้อนมากกว่ากาแฟเย็นมากๆ
- เมื่อมีร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่มีที่นั่งให้ลูกค้า
เมื่อนั้นคุณถึงพร้อมที่จะใช้เครื่องชงกาแฟระดับ Commercial